ผิวพรรณของเราเป็นสิ่งที่ทุกคนเอาใจใส่และให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่ก็จะมีสารพัดปัญหาผิวที่คอยกวนใจ ทั้งรอยจุดด่างดำ กระบนใบหน้า ขนตามร่างกาย ที่จำเป็นต้องกำจัดออก จนคนทุกวันนี้หันมาใช้การทำ เลเซอร์ เพื่อแก้ไขปัญหาที่คุณกำลังเผชิญกันอยู่
การใช้เลเซอร์เพื่อรักษาความผิดปกติของผิวหนัง เพื่อเสริมความงามไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอย่างที่คิด แล้วยังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะการเลเซอร์นั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างรวดเร็ว และหลากหลาย เช่น ริ้วรอยบนใบหน้า หรือ ฝ้า กระ ต่างๆที่ตามมาเนื่องจากอายุที่มากขึ้น
การทำเลเซอร์คือกระบวนการรักษาที่ใช้แสงชนิดหนึ่งที่มีพลังงานสูงมาก สามารถดูดซึมเข้าไปในส่วนประกอบเล็กๆในเซลล์ของผิวหนัง และเม็ดสีเมลานินบางชนิดสามารถดูดซึมเข้าไปในเม็ดเลือด เมื่อแสงเลเซอร์เข้าไปในเซลล์จะทำให้เกิดความร้อน จนเซลล์สลายตัวไปในที่สุดหรือข้อดีจริงๆคือสามารถจัดการได้เฉพาะจุดที่เราต้องการ ปัจจุบันการทำเลเซอร์ได้มีความหลากหลายเป็นอย่างมาก เพื่อตอบสนองความต้องการ ซึ่งเลเซอร์ที่มีหลายชนิดในวงการแพทย์โดยเลเซอร์ที่มีใช้ในวงการแพทย์ผิวหนังในปัจจุบันมี 5 ประเภทหลักๆ
- เลเซอร์กำจัดขน
- เลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดมีแผล
- เลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดไม่มีแผล
- เลเซอร์รักษาความผิดปกติของหลอดเลือด
- เลเซอร์รักษาความผิดปกติของสีผิวและลบรอยสัก
เลเซอร์เพื่อการกำจัดขน เป็นการใช้พลังความร้อนสูงทำลายต่อม รากขนโดยแสงจะลงไปที่รากขนโดยไม่ต้องจี้ทีละเส้น เพื่อหยุดการเจริญเติบโตของเส้นขนไม่ให้ขึ้นมาอีก แสงของเลเซอร์จะจับเซลล์บริเวณรากขนโดยไม่ทำลายผิวหนังส่วนอื่น
เลเซอร์เพื่อรักษาผิวหนัง สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวพรรรณเกี่ยวกับ ความหมองคล้ำ หรือรอยแผลเป็นจากสิวซึ่งสาเหตุหลักมักเกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้แสงเลเซอร์ยิงไปที่ผิวเพื่อให้เม็ดสีเมลานินที่มีตามธรรมชาติในผิวเป็นตัวดูดพลังงานแสงจากนั้นแสงเปลี่ยนเป็นความร้อนเพื่อทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติเพื่อปรับสีผิวให้สม่ำเสมอกัน และรักษาริ้วรอยจุดด่างดำต่างๆ
เลเซอร์ลดริ้วรอย การใช้เลเซอร์ส่งพลังงานสู่โครงสร้างชั้นผิวหนังจากการผสานการทำงานของคลื่นพลังงานโดยยิงเลเซอร์จากผิวภายนอกประกบกับภายใน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสติน ขณะเดียวกันก็มีการกระตุ้นการไหลเวียนของระบบหลอดเลือดและน้ำเหลืองจึงทำให้เห็นผลในการรักษาชัดเจนมากขึ้น
เลเซอร์เพื่อกำจัดติ่งเนื้อ ไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ โดยจะใช้เลเซอร์ผลิตแสงที่มีความยาวช่วงคลื่น 10,600 nm. โดยจะกระตุ้นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้คลายพลังงานออกมาในรูปแบบแสง โดยทั่วไปแล้วจะใช้เครื่อง CO2 Laser ในการกำจัดติ่งเนื้อเหล่านี้
เลเซอร์ลบรอยสัก การสักคือการนำเม็ดสีเข้าสู่ผิวหนังโดยทำให้เกิดแผลขนาดเล็กจากการเจาะด้วยเข็มหรือเครื่องสักและเมื่อแผลหาย สีจะอยู่ติดกับผิวหนังตลอด โดยวิธีการจะนำออกจะเป็นการอาศัยพลังงานจากเลเซอร์เข้าไปทำให้เม็ดสีของหมึกที่สักลงไป ซึ่งเป็นโมเลกุลใหญ่แตกตัวกระจายออก หรือเมื่อเม็ดสีที่หนาแน่นได้รับพลังงานมากเกินไปเม็ดสีจึงถูกทำลายโดยที่เนื้อเยื้อได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ทำให้ไม่เกิดรอยแผลมากนัก ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะต้องทำการรักษาประมาณ 5-7 ครั้งรอยถึงจะหายไปและขึ้นอยู่กับ ตำแหน่งของรอยสัก ขนาด และชนิดของน้ำยาสัก รวมถึงสีของรอยสักหากว่ารอยสักเป็นสีทึบโดยเฉพาะสีดำจะดูดซับแสงเลเซอร์ได้มากว่าทำให้ลบได้ง่ายกว่าสีโทนสว่าง
ซึ่งหลังจากที่ทำเลเซอร์ ผิวของเราจะบอบบาง เป็นอย่างมากและผิวก็จะแห้งอีกด้วย ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งเกราะในการป้องกันผิวก็สำคัญมาก ผิวจะมีอาการแพ้ง่ายไวต่อการระคายเคือง หรืออาจมีอาการ อักเสบ ผื่นแดง และไวต่อแสงแดดอย่างผิดปกติ อาจะมีแผลซึ่งจะทำให้เกิดรอยคล้ำจากแสงแดด เพราะหากคุณไม่รักษาผิวหลังจากทำเลเซอร์ก็อาจนำมาซึ่งผลข้างเคียงเกิดขึ้นตามมาได้
- สิ่งที่สำคัญที่สุดหลังจากการทำเลเซอร์ก็คือให้หลีกเลี่ยงแสงแดดหรือหลบการถูกแดดโดยตรงประมาณ 1-2 สัปดาห์ ถ้าหากจำเป็นจริงๆให้สวมเสื้อผ้าปกป้องผิว เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หรือสวมหมวกเมื่อต้องออกกลางแจ้ง และควรทาครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 30 ขึ้นเพื่อเป็นเกราะป้องกันอีกชั้นหนึ่ง เนื่องจากช่วงนี้ผิวของเราจะไวต่อแสงแดดเป็นอย่างมาก
- ในช่วงแรกหลังจากการทำเลเซอร์บริเวณผิวหนังอาจมีอาการแสบร้อนร่วมอยู่ควรใช้แผ่นประคบเย็นประคบบริเวณที่มีอาการ และควรบำรุงเซลล์ผิวใหม่ให้ชุ่มชื้นด้วย stratacel พื่อทำให้อาการของคุณดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
- หลีกเลี่ยงการสครับผิวหรือการขัดผิวรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เนื่องจากจะทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองมากยิ่งขึ้น ควรเลือกใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว
- ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกายเพราะผิวหลังจากการทำเลเซอร์จะสูญเสียน้ำทำให้ผิวแห้ง และง่ายต่อการระคายเคือง
การทำเลเซอร์นั้นไม่ได้ทำให้ผิวเราบางลงอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจเมื่อคลื่นในพลังงานแสงถูกยิงลงบนผิวหนังและเปลี่ยนเป็นความร้อนทำให้เซลล์ผิวบริเวณนั้นถูกทำลายไปพร้อมกับการหลุดลอกของผิวหนังชั้นกำพร้า และหลังจากนั้นผิวของเราก็จะกลับมาอยู่สภาพเดิม
ปัญหาหูกาง ใบหูที่มีขนาดใหญ่ เป็นความผิดปกติของใบหูสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่กำเนิด หรือพูดอีกอย่างคือมีลักษณะของใบหูที่มีมุมจากศรีษะกว้างกว่าปกติ ทำให้มีรูปร่างใบหูที่ไม่สมส่วน บางคนที่มีใบหน้าที่สมส่วนแล้วยังติดเรื่องหูกางที่ทำให้ไม่มั่นใจ ยิ่งสำหรับสาวๆ อาจต้องไว้ผมมาบังใบหู ไม่กล้ารวบผม เพราะสร้างความไม่มั่นใจ ซึ่งเมื่อกังวลมากจึงต้องหาวิธีการแก้ไขและปรับเปลี่ยนให้สวยขึ้น